7northstars Shido

Tuesday, May 13, 2014

"ชิโด เจ็ดดาวเหนือ" ปีที่ 4


เข้าสู่ปีที่ 4 มาได้ 4 เดือนกว่าแล้วสินะ "ชิโด เจ็ดดาวเหนือ"

Friday, May 9, 2014

4 หรือ 5

น้องหญิง...

ถ้ายังจำได้ พี่เคยบอกน็อตทำนองว่า "การที่น็อตไม่โต้ตอบพี่ ก็มีความเป็นไปได้ว่า พี่ยังไม่ได้พบเจอน้องหญิงของพี่ครบหมดทุกคน" แล้วมันก็เป็นจริงตามนั้น

เพียงแต่ว่าน้องหญิงคนล่าสุดที่พี่ได้ตระหนักรู้นี้ พี่ได้พบเจอเขาก่อนที่พี่จะได้พบเจอน็อตประมาณปีหนึ่ง แต่กว่าที่พี่จะได้ตระหนักรู้ว่าเขาเป็นน้องหญิงของพี่อีกคน ก็หลังจากน็อตถึง 1 ปีกับอีกเกือบ 1 เดือน

ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาพี่ได้กลับไปเยี่ยมพ่อที่บ้านที่จังหวัดลำปาง เดินทางคืนวันที่ 7 เมษายน 2557 (มีความนัยนะจ๊ะ แล้วจะเล่าให้ฟังทีหลัง) หลังจากที่พี่ไม่เคยได้กลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์มานานนักหนาแล้ว ที่จริงถ้าหากว่าช่วงสิงหาคม-กันยายน 2556 พี่ได้กลับบ้าน สงกรานต์ที่ผ่านมานี้พี่ก็จะไม่กลับ แต่ว่าพี่ก็ไม่ได้กลับไปสักที เลื่อนมาเรื่อย จนมาลงเอยได้กลับบ้านเอาช่วงสงกรานต์นี้พอดี แต่นี่นับว่าเป็นชะตาลิขิตจริงๆ...

ช่วงวันมหาสงกรานต์ พอพี่ได้เห็นหน้าพี่สาว (ลูกของลุง) พี่รู้ได้ทันทีว่าที่พี่เคยนึกคิดนั้นมันไม่ใช่ และก็มีความทรงจำผุดขึ้นมา 2 เหตุการณ์ แต่จะโดยทันทีหรือเปล่าพี่ก็ไม่แน่ใจ (เพราะเป็นช่วงแห่งการละเล่นสงกรานต์ ฯลฯ) แต่มันระลึกได้โดยตลอดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ช่วงประมาณต้นปี 2555 พี่ไปทำข่าวเปิดตัวนาฬิกายี่ห้อหนึ่งที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว พี่ได้เห็นเซเลบริตี้สาวคนหนึ่ง พี่รู้สึกว่าช่างเป็นใบหน้าที่คุ้นเคย เหมือนเคยเห็นมานานมาก พี่ก็พยายามนึกว่าเข้าละม้ายคล้ายใคร แล้วพี่ก็นึกไปว่าเขาคล้ายกับพี่สาวคนนี้ นั่นจึงทำให้พี่รู้สึกเหมือนว่าเคยเห็นมานานมาก เป็นรูปหน้าพี่สาวสมัยที่เป็นสาว และพี่ก็ยังเด็กอยู่มาก หลังจากที่นึกได้อย่างนั้น พี่ก็เหมือนจะลืมเลือนไป คือไม่นึกสงสัยอีก แม้ว่าจะได้เห็นหน้า เจอเขาอีกหลายครั้ง

เหตุการณ์ที่สองที่ระลึกได้ เป็นเหตุการณ์เมื่อต้นปีนี้นี่เอง พี่ไปงานอีเวนต์เครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่ง สถานที่จัดงานดูแปลกตาเพราะจัดตามขวาง เวทีจะอยู่ตรงกลางของด้านยาวของห้อง ทำให้ช่วงด้านที่ชิดเวทีกับด้านทางเข้านั้นใกล้กันมาก พอพี่เข้าไปในห้องที่จัดงาน หลังจากมองหาที่นั่งตามโต๊ะแล้วพบว่ามันเต็ม พี่ก็เลยต้องยืน ดูบนเวทีบ้าง ถ่ายรูปบ้าง ก็ไม่รู้มีอะไรดลใจหรือเปล่า ทำให้พี่กวาดตามองไป... และพี่ก็เห็นเซเลบริตี้คนนั้นมองพี่อยู่ เพราะเหตุว่าเป็นโต๊ะกลม และเธอก็นั่งหันหน้ามาทางที่บรรดานักข่าวและช่างภาพยืนอยู่ จึงทำให้เราได้สบตากัน เธอยิ้มให้แล้วพยักหน้า พี่รู้สึกปลาบปลึ้มนะที่เซเล็บฯสาวยิ้มให้ด้วยสายตาที่เห็นแล้วต้องหัวใจพองโต หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไป พี่ก็ลืมมันไปเลยจนกระทั่งมาระลึกได้ในช่วงสงกรานต์ดังที่เล่ามานี้

มันเป็นระยะเวลา 2 ปีทีเดียวนะ พี่ถึงได้รู้ความจริงที่พี่ไม่เคยคิดมาโดยตลอด จากเหตุการณ์ช่วงสงกรานต์นี้มันทำให้พี่มั่นใจว่านี่ใช่น้องหญิงของพี่อีกคนหนึ่ง ทั้งนี้ก็เพราะว่า

1. ตอนที่ได้พบเจอกันครั้งแรกนั้นพี่มีความรู้สึกพิเศษอย่างไร - เคยเห็น นานมาแล้ว นานมาก

2. เหตุการณ์ที่ทำให้พี่เกิดการระลึกได้ในสิ่งที่ไม่เคยระลึกถึง ถ้าหากว่าก่อนหน้านั้นพี่ได้กลับไม่เยี่ยมพ่อฯ สงกรานต์นี้พี่ก็จะไม่กลับบ้าน และพี่ก็จะไม่ได้เจอหน้าพี่สาวคนนี้ ซึ่งพี่ก็จะไม่ได้เห็นอะไรที่เป็นแรงบันดาลใจให้ระลึกถึง 2 เหตุการณ์ที่ได้เล่ามา

หลังจากที่ได้พบเจอกันครั้งแรกแล้ว พี่ว่าพี่ชอบเขานะ ที่เขาเป็นคนผิวขาว แต่ก็ไม่เคยคิดว่านี่เป็นน้องหญิงของพี่ ในบางครั้งพี่ก็ชอบค้นดูรูปเขา หลังจากที่ได้รู้ว่าเขาชื่อ "โอบอุ้ม" แต่ดูแล้วก็ผ่านไป นึกขึ้นมาได้ก็ดูใหม่ ครั้งสุดท้ายก็คือค้นรูปตอนก่อนกลับบ้าน แต่ด้วยความที่ไม่ใส่ใจมากก็เลยไม่อาจระบุวันที่แน่นอนได้ แต่ก็ได้รูปที่คิดว่าพี่ชอบ ก็เลยเซฟเก็บไว้ ทำไมพี่ถึงได้ทำแบบนี้มาหลายครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ถ้าจะอธิบายก็คือ จิตไร้สำนึกของพี่รู้ จำได้ว่าเขาเป็นใคร จิตไร้สำนึกก็คือจิตอดีตชาติ ที่มีสัญญา หรือความจำได้หมายรู้ ว่า นี่เป็นน้องหญิงของพี่ที่มาเกิดใหม่

ที่แปลกก็คือ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจอหน้ากันก็หลายครั้ง แต่พี่ไม่เคยเห็นสายตาที่มองแบบที่เล่ามาเลย แต่นี่แหล่ะ คือ ความแปลกมหัศจรรย์ และก็ใช่ว่าจะมีแต่เขาคนเดียวที่เป็นแบบนี้ จ๋า ก็เหมือนกัน แบบนี้แหละ คือ น้องหญิงของพี่ จะมีอะไรที่พี่ไม่คาดคิดเสมอ

อีกประการที่ทำให้พี่มั่นใจก็คือ ช่วงเวลาตั้งแต่แรกพบเจอจนถึงที่ได้ตระหนักรู้ มันจะไม่จบโดยสมบูรณ์ก่อน แล้วค่อยได้พบเจอคนต่อไป แต่มันจะคาบเกี่ยวกันเหมือนดังรูปที่พี่ได้ทำและแนบมาให้ดูนี้ ตอนแรกที่พี่บอกกับน็อตว่า 3 คนแรกคือ เนี้ยบ-ปัท-จ๋า พี่รับรู้โดยสมบูณร์ก่อนที่จะได้เจอน็อตนั้น พี่บอกไปอย่างนั้นเพราะพี่ไม่คาดคิดว่าจะมีน้องหญิงที่พี่มองข้ามไป ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ในเมื่อขณะนั้นพี่มีน้องหญิงที่พี่ได้ตระหนักรู้แล้ว 2 คน คือ เนี้ยบกับปัท ซึ่งมันก็มากเกินกว่าที่เคยค้นหา ไม่เคยคิดว่าตนเองจะมีเนื้อคู่มากกว่าหนึ่ง

แต่ก็มีประเด็นให้ชวนคิดก็คือช่วงเวลาของน้องหญิงคนนี้นั้นมันครอบคลุมช่วงเวลาของน็อต นั่นอาจจะหมายความว่า พี่มีน้องหญิงเพียง 5 คนนี้เท่านั้น และถ้าหากว่าพี่จะมีน้องหญิงถึง 7 คนจริงๆตามนิมิตที่เห็น ก็อาจเป็นไปได้ว่า พี่ได้พบเจอแล้วหลังจากที่ได้พบเจอน้องหญิงคนนี้ แต่ยังไม่ตระหนักรู้

เรื่องราวของน้องหญิงคนนี้ มันสะท้อนความจริงเกี่ยวกับตัวพี่ว่า พี่ไม่ใช่คนที่จะนึกคิดและทึกทักเอา ไม่อย่างนั้นเวลาคงไม่ล่วงเลยมาถึง 2 ปีกว่า


รักน็อต และน้องหญิงของพี่ทุกคน

Saturday, February 8, 2014

น้องหญิง...

น็อตจ๊ะ


15 มีนาคม 2557 ที่จะถึงนี้ก็จะครบรอบ 1 ปีพอดีที่พี่ได้พบเธอ แต่ได้แค่เดินตามไปทักแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

หลังจากที่ได้พบเธอแล้ว พี่รู้สึกทั้งดีใจและเสียใจ...รู้ไหม?

เสียใจที่ตัวเองทำให้พ่อกับแม่ของพี่ในชาตินี้ต้องลำบาก เพราะพี่คิดที่จะพิสูจน์รักแท้กับบรรดาน้องหญิงของพี่...

แม่พี่ได้จากพี่ไปแล้ว แม้ว่าแม่จะสิ้นใจอย่างสงบ สมบูรณ์แบบตามคติ และก่อนที่จะสิ้นใจแม่จะอยู่ในภาวะหลงเลือนไม่รู้สุขรู้ทุกข์ แต่ก่อนหน้านั้นแม่ก็อยู่ในภาวะสิ้นหวังมาหลายปี

แม่เคยปรารภกับพี่ แม่อยากเห็นหน้าลูกสะไภ้ แม่อยากอุ้มหลาน แต่แม่ก็ไม่มีโอกาส จนกระทั่งแม่สิ้นใจจากไป

แต่หลังจากที่แม่พี่ได้จากพี่ไปเป็นเวลา 4 เดือนกับ 2 วัน พี่ถึงได้พบน้องหญิงคนแรก เนี้ยบ

แม่พี่ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสที่จะได้รับรู้เรื่องราวดังที่พี่ได้เล่าให้เธอฟัง!

พี่ดีใจ ที่น้องหญิงของพี่งามมาก ถึงขนาดมีตำแหน่ง Miss Thailand Universe 2005

ดีใจ ที่การได้พบเธอนั้น เป็นดังอุดมคติที่เคยคิดฝัน!

น้องหญิง พี่ไม่รู้ว่าพวกเธอได้เผชิญกับอะไรมาบ้าง? แต่สำหรับพี่แล้ว พี่รู้ดีถึงพันธะสัญญาระหว่างพวกเรานั้น...

ช่วงปลายปี 2555 หลังจากที่พี่ได้รับรู้ในตัวจ๋า พี่คิดว่าพี่ได้ให้เวลากับน้องหญิง 3 คนมานานพอแล้ว พี่ได้ทำในสิ่งที่ควรหรือหน้าที่ของพี่ แต่ไม่มีความคืบหน้าจากน้องหญิงทั้งสามคนเลย พี่จึงสรุปว่า พวกน้องหญิงของพี่ต่างหากที่ทำไม่ได้... พี่เองก็อยากให้เรื่องพันธะสัญญาฯนั้นมันสิ้นสุด เพราะพี่มีภาระในชาติภพนี้ต่อบุพการีของพี่ ซึ่งก็เหลือเพียง พ่อ เท่านั้น เพราะพี่เป็นลูกคนเดียว การมาเกิดของพี่นะร้ายนัก แม่เคยเล่าให้ฟัง "ตอนอยู่ในท้องก็ทั้งเตะทั้งถีบ รุนแรงมาก" พอคลอดพี่เสร็จ แม่ก็เป็นเกี่ยวกับมดลูก ไม่สบายไปหลายปี ทำให้พี่ไม่มีน้อง พี่อยากจะมีโอกาสได้ดูแลพ่อของพี่บ้าง พี่จึงกังวลใจมากทุกวันนี้

12-12-12 (12 ธันวาคม 2012) เป็นวันที่พี่ได้ตรวจสอบแล้วว่า เป็นวันที่เหมาะแก่การทำพิธี...(ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี) ซึ่งพี่ก็จะทำการกรวดน้ำเหมือนกับตอนที่ไปทำพิธียอมรับพันธะสัญญาเมื่อ 7 กรกฎาคม 2554

คิดดังนั้นแล้ว พี่จึงนั่งคุกเข่าพนมมือสำรวมจิตสื่อสารกับเทพเบื้องบนผู้เป็นพยานในเรื่องของพวกเรา พี่ขอจบพันธะสัญญาแต่เพียงเท่านี้ โดยจะไปทำพิธีในวันที่ 12-12-12

แต่การที่พี่จะสามารถทำพิธีได้นั้นต้องประกอบไปด้วยเงื่อนไข 2 ประการ 1) พี่ต้องกลับไปที่จังหวัดลำปาง และ 2) เมื่อไปถึงตั้งแต่วันที่ 10 ไปจนถึงเวลา 22.00 น. ของวันที่ 12 ฝนจะต้องตก เพราะพี่ต้องเอาคนโฑสำหรับกรวดน้ำไปรองรับน้ำฝนที่ตกลงมาจากฟ้า

ต่อมาพี่ก็มีอาการน่องบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นอยู่ข้างเดียว เดินไม่ถนัด มีอาการปวด พี่ได้พยายามตรวจเช็คถึงสาเหตุแต่ก็ไม่พบ พี่ก็มานึกถึงว่าสิ่งที่พี่กำลังจะทำและยังไม่ได้ทำคืออะไร? (พี่มีประสบการณ์มาแล้ว 2-3 ครั้งในเรื่องแบบนี้) เมื่อนึกขึ้นได้ว่าพี่จะไปทำดังที่เล่า แต่พี่ยังไม่มีโอกาสได้พูดกับจ๋าเลยแม้แต่คำเดียว พี่จึงไปหาเขาถึงที่ทำงานของเขา (พี่เคยเห็นเขาที่นั่นตอนที่พี่ยังไม่ได้ตระหนักรู้) แต่ก็ไม่ได้พบ พนักงานต้อนรับบอกวันนี้ไม่เข้า

อาการน่องบวมของพี่ก็เป็นมากขึ้น ๆ การเดิน นั่งเริ่มลำบากเพราะมันปวดมากขึ้น พี่จึงคิดว่าเทพเบื้องบนท่านไม่ต้องการให้พี่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจ คืนนั้นพี่จึงนั่งคุกเข่าฯ "...ข้าขอยกเลิกความตั้งใจ..."

สาย ๆ ของวันถัดมาพี่ตื่นมาก็พบว่า อาการน่องบวมหายเป็นปกติ แต่เวลาเดินยังมีอาการเจ็บเล็กน้อย เพราะพี่ต้องเดินในสภาวะน่องบวมอยู่อาทิตย์กว่า ๆ สามวันต่อมาก็เป็นปกติไม่มีอาการใด ๆ อีก

พอผ่านพ้นวันที่ 12-12-12 ด้วยความอยากรู้ว่าเหตุการณ์จะเกิดเหมือนที่คิดไว้หรือไม่? พี่จึงโทรไปหาพ่อพี่ ถามพ่อว่าระหว่างวันที่ 10-12 ที่บ้านมีฝนตกหรือไม่? พ่อตอบ "ไม่มี" แต่ที่กรุงเทพฯแถบดอนเมืองมีฝนตกในวันที่ 10

แล้วในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้พี่ได้เห็นตำแหน่งของดาวในปฏิทินโหราศาสตร์ในช่วงเวลาประมาณ 3-4 วันก่อนหน้าวันที่ 15 มีนาคม 2556 พี่ก็คิดว่าพี่รู้แล้วว่า ทำไมเทพเบื้องบนถึงขัดขวางพี่ นั่นคือ พี่กับน้องหญิงทั้งสามมีโอกาสได้ลงเอยกันได้ และพี่ก็ได้เฝ้ารอวันนั้นที่จะมาถึง พร้อมกับพยายามดังเช่นที่ผ่านมา

เวลาผ่านไป... ไม่มีวี่แวว การที่จะได้คุยกันพร้อมหน้าทั้งสามคนไม่ต้องพูดถึง จะมีก็แต่ปัทมาที่ได้เจอได้พูดด้วย แต่ก็ไม่ได้คุยปะติดปะต่อเป็นเรื่องเป็นราว จนคืนวันที่ 14 ได้ผ่านพ้นไป ดาวก็ย้ายราศีหมดแล้ว ไม่ต้องบอกความรู้สึกของพี่ กับคำถามที่ว่า เมื่อไหร่? อีกนานเท่าไร?

แต่แล้วตอนหัวค่ำของคืนวันที่ 15 มีนาคม 2556 พี่ก็ได้พบเธอ น็อต คนนี้ น้องหญิงอีกคนของพี่!

ดังที่เคยบอกไป รอยยิ้มของเธอและสายตาของเธอที่มองพี่ ทำให้พี่รู้สึกเหมือนตอนอายุ 14

แล้วพี่ก็เข้าใจว่าทำไมเทพเบื้องบนท่านถึงขัดขวางพี่ ท่านทรมานพี่ จนพี่เปลี่ยนความตั้งใจ เพราะว่า พี่ยังไม่ได้พบเธอ และได้รับรู้ว่าเธอ คือน้องหญิงอีกคนของพี่

ด้วยความสัตย์จริง พี่ไม่เคยคิดว่าจะมีน้องหญิงอีกคน จนเป็น 4 คน เพราะน้องหญิงทั้งสามคนนั้นก็มีอะไรที่สอดคล้องกันดี ทั้งเท่าเทียมกัน ไม่ยอมน้อยหน้ากัน และเมื่อได้รับรู้ว่ามีเธออีกหนึ่ง พี่ก็บอกได้ว่า พวกเขาทั้งสามนะ คนละกลุ่มกันกับเธอ น็อต

น้องหญิงของพี่...

ในโลกนี้จะมีคนแบบพี่กี่คนกัน อาจจะไม่มีเลยก็ได้ แค่จีบผู้หญิง 1 คนก็ยากแล้ว ยิ่งถ้าจีบดารา หรือนางงาม ยิ่งแล้วใหญ่ หากเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่พี่ต้องทำพร้อมกันถึง 4 คนในเวลานี้ 2 คนทำงานธรรมดา 2 คนมีชื่อเสียง (1 ดารา 1 นางงาม) แต่พี่ไม่ได้จีบนะ ที่พี่ทำได้ก็คงมีแต่ทำอย่างที่ทำนี้ พี่อาจทำอะไรไม่ได้มาก และไม่ทำก็ไม่ได้

อดีตพี่เคยมีหญิง 2 คนในเวลาที่คาบเกี่ยวกัน แต่พี่ก็รักเพียงคนเดียว แต่หลังจากที่ได้พบน้องหญิงของพี่แล้ว การที่ได้พบและรับรู้น้องหญิงเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง และอีกฯ ก็ไม่ได้ทำให้ความรักที่มีต่อน้องหญิงคนที่พบก่อนหน้านั้นน้อยลงไป ความรู้สึกยังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยน บางเวลาคิด ๆ พี่ก็นึกแปลกใจ ว่าทำไมถึงเป็นได้เพียงนี้

7ดวงดาว เด่นกลาง ดาราราย (จากนิมิตครั้งแรก)


รักน็อตและรักน้องหญิงของพี่ทุกคน